Less than perfect


Less than perfect by แม่เหมียวsupermomlifecoach


คุณทราบไหมคะว่า เราทุกคนต่างก็มีความเป็น “นักสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)” อยู่ในตัวเราเอง


ย้อนกลับไปในวัยเด็ก.... ตั้งแต่เล็กๆ เราเคยชินกับเสียงของพ่อแม่ที่คอยบอกคอยสอนว่า 

“อย่าทำแบบนี้สิลูก”... 

“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะลูก”... 

โตขึ้นมาหน่อย ก็ได้ยินเสียงครูบอกว่า 

“ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ ไม่เข้าใจที่ครูสอนเหรอ เห็นไหมเลยเสียไปตั้งห้าคะแนนแน่ะ” 

ทั้งๆ ที่เราทำข้อสอบได้ตั้ง 95 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน...

ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ นี้ ฟังดูคุ้นๆ ไหมคะ...


ตัวดิฉันเอง ตอนเด็กๆ ก็ได้ฟังคำพูดประเภทนี้เสมอๆ... จำได้ว่า คุณพ่อคุณแม่มักจะปลูกฝังด้วยคำว่า

คุณแม่: อยากเป็นคนเก่งต้องทำให้ดีกว่านี้อีกนะ

คุณพ่อ: (เวลาดิฉันสอบได้ที่หนึ่ง หรือ ทำอะไรได้ดีๆ) 
อืม.. ก็ดีนะ แต่อย่างเหลิงล่ะ อย่าคิดว่าตัวเองเก่งนะ 
เดี๋ยวกลายเป็นหลงตัวเองไป.. แย่เลยล่ะทีนี้


พอได้มาเป็นแม่... ดิฉันเอง บางครั้งก็เผลอใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปให้ลูกเช่นกัน 
ถึงแม้บางครั้งจะดูเหมือนแค่พูดแซวหรือเหน็บแนมเล่นๆ ก็ตาม ... 



คุณอาจจจะคิดว่าคำพูดเหล่านี้ก็ไม่ได้ดูรุนแรงอะไรและก็มาจากเจตนาดีที่อยากให้เราเลือกถูก ทำถูก ทำให้ดีขึ้น... 

ใช่ค่ะถูกต้องแล้ว... คุณพ่อคุณแม่ คุณครู หรือ ผู้ใหญ่ทั้งหลายรอบตัวเราต่างก็ปรารถนาดีกับเรา และอบรบสั่งสอนเราตามความเข้าใจของเขา ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับเราหรอกใช่ไหมคะ



แต่... จากการที่ได้ศึกษาเรืื่องจิตใต้สำนึกและ Hypnotherapy   
รวมถึงเคสต่างๆ ที่ได้พบในฐานะเหมียวซุปเปอร์มัมไลฟ์โค้ช 
ทำให้ดิฉันได้กลับไปมอง ไปอ่านรูปแบบชีวิตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น.. 


คุณรู้ไหมคะว่า... การพบเจอกับคำพูดในรูปแบบนี้ทุกวี่วัน... 
มันก็เหมือนการที่เราโดนสะกดจิตโดยไม่รู้ตัว... 
แล้วคุณรู้ไหมคะว่ามันมีผลอย่างไรกับจิตใต้สำนึกของเรา...


ประโยคเดียวที่เป็นสิ่งที่จดจำฝังลึกอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดในตัวเราก็คือ 

“I am not good enough.”...  ฉันยังไม่ดีพอ...

แล้วมันมีผลอย่างไรกับชีวิตเราล่ะ..

มากมายมหาศาลเชียวค่ะ เพราะว่า...


มันทำให้เรามี Self Esteem หรือความนับถือในตัวเองลดลง..  เพราะความรู้สึกลึกๆ ว่าเรายังไม่ดีพอ ยังไม่เก่งพอ ทำให้เรายอมรับนับถือในตัวเองน้อยลง รัก เชื่อมั่น และศรัทธาในตัวเราเองน้อยลง.... 

นานวันเข้าก็เกิดเป็นพฤติกรรมอัตโนมัติ (Auto Pilot) หรือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ โดยไม่รู้ตัว 
ที่เราต้องคอยว่ิงหาการยอมรับ... วิ่งหาการรับรองจากคนรอบข้าง ว่าเราเก่งแล้วใช่ไหม 
เราทำได้ดีแล้วใช่ไหม.. คนชมหัวใจก็พองฟู... คนติหัวใจก็เหี่ยวเฉา... 
ขาดอิสรภาพในการมีความสุข เพราะต้องมีชีวิตอยู่แบบรอการตัดสินจากคนอื่นอยู่เสมอ...


นอกจากนี้มันยังทำให้เราไม่กล้าลงมือทำสิ่งที่ควรทำค่ะ 
เพราะลึกๆ แล้วเราขาดความมั่นใจ คิดว่าเราอาจจะยังทำได้ไม่ดี เรายังรู้ไม่มากพอ 
ต้องเรียนเพิ่มเติมอีกนิด (แต่เรียนเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอซักที.. เฮ้อ!!)... 

หรือพอได้ลงมือทำจริงๆ ก็เกิดอาการกล้าๆ กลัวๆ อันเนื่องมาจากความไม่มั่นใจ 
วนเวียนไปซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นวัฎจักร เป็นพฤติกรรมอัตโนมัติอีกอันที่ติดตัวเรามาจนโต...

เรียกได้ว่า เราถูกสอนให้ยึดติดกับความถูกต้องสมบูรณ์แบบถึงจะดีพอตลอดเวลา.. 
จนรู้สึกว่าความผิดพลาดล้มเหลวเป็นเรื่องที่ยอมรับกันไม่ได้เลยทีเดียว
..................



ทำยังไงดีล่ะคะทีนี้ 

แล้วเราจะแก้ไขยังไงดีล่ะ ที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ไม่ส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานของเรา...
.........
.............


ง่ายๆ สบายๆ ค่ะ ก็แค่เปลี่ยนจากการจับผิด มาเป็นจับถูก :)

เช่น จากตัวอย่างด้านบน 

“อย่าทำแบบนี้สิลูก”...  เปลี่ยนเป็นบอกว่า.... “ทำแบบนี้ปลอดภัยกว่านะลูก”


“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะลูก”...  เปลี่ยนเป็น “ทำแบบนี้ดีกว่าเนอะ”
(ไม่ต้องย้ำสิ่งไม่ดี เน้นให้จำสิ่งที่ดีไปเลย)


“ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ ไม่เข้าใจที่ครูสอนเหรอ เห็นไหมเลยเสียไปตั้งห้าคะแนนแน่ะ” 

เปลี่ยนเป็น...

“เก่งมากจ้ะ ได้ตั้ง 95 คะแนนแน่ะ ไหนลองมาดูกันซิว่ามีตรงไหนที่หนูยังไม่ค่อยเข้าใจบ้าง”
(ให้น้ำหนักสิ่งที่ถูก มากกว่าสิ่งที่ผิด)


“อืม.. ก็ดีนะ แต่อย่างเหลิงล่ะ อย่าคิดว่าตัวเองเก่งนะ 
เดี๋ยวกลายเป็นหลงตัวเองไป.. แย่เลยล่ะทีนี้”

เปลี่ยนเป็น...

“ดีมากลูก พยายามได้ดีมาก พ่อภูมิใจในตัวลูกจริงๆ”
(ให้ค่าที่การกระทำ ไม่ใช่เน้นที่ผลลัพธ์ที่ลูกสอบได้ที่หนึ่ง)



เปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่กันเถอะค่ะ.... 

เลิกจับผิด มาจับถูกชีวิตกันดีกว่า ทั้งชีวิตเราและชีวิตลูกเลย ดีไหมคะ?... 

เปลี่ยนเป็นการสะกดจิตที่ทำให้ลูก(รวมทั้งตัวเราเองด้วย) รู้สึกได้ว่า...
การผิดพลาดบ้างก็ทำให้เราได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และเติบโตขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต 
ให้เค้าได้ใช้ชีวิตเต็มที่ ได้ทำทุกอย่างเต็มที่ แล้วปล่อยวางผล...

ถูกก็ดีที่เข้าใจ ผิดก็ดีที่ได้เรียนรู้...

ให้เค้ารู้สึกได้ว่า ผิดบ้างก็ได้ พลาดบ้างก็ได้ ไม่เป็นไร ยังไงเราก็รัก...

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเราก็คือ... 



การที่เรา...

มีความสุขได้แม้ในชีวิตที่มันไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง...
Life is beautiful.... Be happy even less than perfect ^_^







ด้วยรักและปรารถนาดี 
“เป็นฮีโร่ในใจเรา เป็นไอดอลในใจลูก”

แม่เหมียวsupermomlifecoach  =^^=




* อนุญาตให้เผยแพร่ได้โดยไม่ตัดตอน

**  กราบขอบพระคุณ ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้ให้วิชา และดวงตาเห็นธรรม
     ขอบคุณทุกเคสที่เสียสละเรื่องราวของตัวเอง
     ขอบคุณแรงบันดาลใจจากกัลยาณมิตรทุกคน และ ห้องเรียนเข็มทิศจิตใต้สำนึก



Comments

Popular posts from this blog

คาถาคลอดลูกง่าย(องคุลิมานปริตร)

บันทึกหนูเปีย ตอน1

Supermom... Superman..